* ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ทางษริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาและอุปกรณ์โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
รถมอเตอร์ไซค์ทั้งหมดติดตั้งมาพร้อมอุปกรณ์ที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น (เช่น แผ่นสะท้อนแสงตามมาตรฐาน Euro 4) ภาพประกอบในเว็บไซต์อาจแตกต่างจากรถจริง กรุณาติดต่อตัวแทนจำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดอย่างเป็นทางการสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
BMW C 650 GT
BMW C 650 GT คือสกู๊ตเตอร์รุ่นล่าสุดและเอ็กซ์คลูซีฟที่สุดจาก BMW Motorrad ตอกย้ำให้เห็นถึงบุคลิกอันสง่างามด้วยเส้นสายที่มีสไตล์และปราดเปรียว มาพร้อมแฟริ่งที่ช่วยบังลมได้เป็นอย่างดี เบาะนั่งแสนสบาย และบังลมหน้าทรงสูง คุณจึงเดินทางสู่ทุกจุดหมายได้อย่างสบาย ไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นเช่นไร สกู๊ตเตอร์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับช่องเก็บของขนาดใหญ่สำหรับเก็บของทุกอย่างที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะของจากการช้อปปิ้ง สัมภาระต่างๆ หรือจะเก็บหมวกกันน็อคก็สามารถใส่ได้ถึงสองใบ ระบบความปลอดภัยนวัตกรรมใหม่ เช่น ระบบเตือนสิ่งกีดขวางด้านข้าง Side View Assist (อุปกรณ์เสริม) มีประโยชน์เป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อขับขี่ในเขตเมือง เนื่องจากจะทำหน้าที่แจ้งเตือนให้ผู้ขี่ทราบเมื่อมียานพาหนะอื่นๆ เข้ามาภายในบริเวณจุดบอดที่ความเร็วสูงสุด 80 กม./ชม.
การออกแบบ C 650 GT
เลือกสไตล์ของคุณเอง
ทุกดีไซน์ คุณเลือกได้ – C 650 GT มีสีตัวถังที่โดดเด่นให้เลือกสามสี ได้แก่ สี Ocean Blue Metallic Matte, สี Black Storm และสี Light White
ดึงดูดทุกสายตาจากคนรอบข้าง
เครื่องยนต์สองสูบแถวเรียง
อัดแน่นด้วยพละกำลัง
อัดแน่นด้วยพละกำลัง
เครื่องยนต์สูบคู่แถวเรียงระบายความร้อนด้วยน้ำให้ความคล่องแคล่วและทรงพลังด้วยแรงบิด 63 นิวตัน-เมตรและกำลัง 44 กิโลวัตต์ (60 แรงม้า) รองรับความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. สกู๊ตเตอร์คันนี้จึงเป็นทั้งยานพาหนะที่คล่องแคล่วปราดเปรียวสำหรับการขับขี่ในเมืองและเพื่อนร่วมเดินทางที่เต็มไปด้วยพละกำลังสำหรับการเดินทางไกล
ระบบคลัตช์และระบบเกียร์ CVT ออกแบบใหม่ช่วยให้สามารถทำอัตราเร่งได้ดีขึ้นที่ความเร็วต่ำ เช่น ขณะรอสัญญาณไฟจราจร
นอกจากนี้ยังมีรุ่นลดทอนกำลังที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 35 กิโลวัตต์ (48 แรงม้า) เพื่อให้นักขี่อายุต่ำกว่า 25 ปีที่ถือใบอนุญาตขับขี่ของสหภาพยุโรปสามารถสนุกกับการขี่ C 650 GT ได้เช่นกัน
ดีไซน์ใหม่ พร้อมเสียงที่ดุดัน
ดีไซน์ใหม่ พร้อมเสียงที่ดุดัน
C 650 GT มาพร้อมกับชุดท่อไอเสียออกแบบใหม่ ผลิตจากสเตนเลสสตีลคุณภาพสูง นอกจากจะสวยงามโดดเด่นเป็นพิเศษแล้ว ยังมีน้ำหนักเบากว่าท่อไอเสียรุ่นก่อนหน้าและยังมีปริมาณมลพิษและระดับเสียงต่ำ พร้อมทั้งยังให้เสียงที่แน่นและดุดันมากยิ่งกว่าเดิมด้วย
สัมผัสกับเสียงของ C 650 GT
ไฮไลท์ของ C 650 GT
























สะดวกสบายสำหรับการใช้งานในเมือง
สะดวกสบายสำหรับการใช้งานในเมือง
C 650 GT คือสกู๊ตเตอร์ที่เอ็กซ์คลูซีฟที่สุดจาก BMW Motorrad สัมผัสกับประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยบังลมแบบปรับด้วยไฟฟ้าและอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น ระบบอุ่นแฮนด์และเบาะนั่ง C 650 GT ยังมาพร้อมกับพื้นที่เก็บของมากที่สุดเมื่อเทียบกับสกู๊ตเตอร์กลุ่มเดียวกัน โดยมีการออกแบบช่องเก็บของให้ซ่อนอย่างกลมกลืนไปกับเส้นสายที่ปราดเปรียวของตัวรถ
รับรู้ทุกสถานการณ์รอบตัว
ระบบความปลอดภัยนวัตกรรมใหม่ เช่น ระบบเตือนสิ่งกีดขวางด้านข้าง Side View Assist (อุปกรณ์เสริม) มีประโยชน์เป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อขับขี่ในเขตเมือง เนื่องจากจะทำหน้าที่แจ้งเตือนให้ผู้ขี่ทราบเมื่อมียานพาหนะอื่นๆ เข้ามาภายในบริเวณจุดบอดที่ความเร็วสูงสุด 80 กม./ชม.
ความปลอดภัยสูงสุดขณะเบรกและเร่งความเร็ว
นอกจากระบบ ABS (ระบบป้องกันการล็อคของล้อขณะเบรก) แล้ว C 650 GT ยังมีการติดตั้งระบบ ASC เต็มรูปแบบ (ระบบป้องกันการลื่นไถล) มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานด้วยเช่นกัน ระบบ ASC ช่วยให้การขับขี่มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสำหรับการขับขี่บนสภาพผิวถนนที่ไม่คุ้นเคย โดยระบบนี้จะเข้าควบคุมการทำงานของชุดควบคุมการทำงานเครื่องยนต์ในกรณีที่จำเป็น เช่น เพื่อป้องกันไม่ให้ล้อหลังหมุนฟรีขณะขับขี่ในระหว่างที่ฝนตก เป็นต้น
ระบบช่วงล่างปรับปรุงใหม่เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
แชสซีและระบบช่วงล่างของ C 650 GT ผ่านการออกแบบและปรับตั้งใหม่ทั้งหมด โดยมีการปรับลดอัตราการยืดหยุ่นของสปริงตะเกียบหน้าและสปริงหลังลง 10 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้รถตอบสนองได้ว่องไวยิ่งขึ้น โดยที่ยังคงเสถียรภาพเอาไว้ได้ในระดับเดิม
ส่องสว่างได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดโดยอัตโนมัติ
ไฟขณะขับขี่เวลากลางวันจะปรับการทำงานให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมรอบข้างโดยอัตโนมัติ ยกตัวอย่างเช่น ขณะเข้าและออกจากอุโมงค์ ระบบจะเปิดและปิดการทำงานของไฟต่ำโดยอัตโนมัติ โดยที่ผู้ขี่ไม่จำเป็นต้องเปิดหรือปิดไฟด้วยตัวเอง ทำให้นักขี่มีสมาธิกับการจราจรได้อย่างเต็มที่
ตั้งรถได้ง่ายยิ่งขึ้น
การจอด C 650 GT กลายเป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากมีการออกแบบกลไกการทำงานของขาตั้งกลางใหม่ ซึ่งช่วยลดแรงที่ต้องใช้การตั้งรถลงได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์
บทสัมภาษณ์เอ็ดการ์ ไฮน์ริช
กลับไปในบาวาเรียหลังจากอินเดีย
หลังจากใช้เวลาสั้นๆ ในอินเดีย เอ็ดการ์ ไฮน์ริชได้เดินทางกลับสู่มิวนิก เพื่อรับบทบาทเป็นผู้นำทีมออกแบบของ BMW Motorrad อีกครั้ง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับชายผู้หลงใหลในมอเตอร์ไซค์คนนี้ ซึ่งเริ่มต้นเส้นทางอาชีพของเขากับ BMW เมื่อปี 1986 เอ็ดการ์เป็นหัวเรือใหญ่ในการออกแบบมอเตอร์ไซค์ BMW หลายๆ รุ่น ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ในการแข่งขันแรลลี่ปารีส-ดาการ์ หรือมอเตอร์ไซค์รุ่น K 1200 S และ R, HP2 Enduro, R 1150 GS, R 1200 GS รวมถึง S 1000 RR ที่เป็นผลงานล่าสุดของเขา