BMW Motorrad Track Experience.
BMW Motorrad Thailand ผู้สนับสนุนให้คนไทยได้เรียนรู้ทักษะการขับขี่ที่ถูกต้อง จาก California Superbike School สถาบันการพัฒนาทักษะการขับขี่ที่ถือว่าดีที่สุดในโลก ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์
ENTERING NEW SPEED ZONE
หากคุณรักความเร็ว มีไลฟสไตล์ที่รักการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์แบบสปอร์ต ชอบผจญภัย หลงไหลการใช้เวลาว่างในการขับขี่ในสนามแข่งแล้ว คุณคงหนีไม่พ้นการชื่นชอบในการเรียนรู้ทักษะการขับขี่ที่ถูกต้อง สามารถควบคุมรถคันโปรดให้พุ่งทยานไปตามใจต้องการทั้งบนถนนหลวงรวมถึงในสนามแข่ง
หนึ่งในสถาบันการพัฒนาทักษะการขับขี่ที่ถือว่าดีที่สุดในโลกอย่าง California Superbike School โดย Keith Code และทีมงานก็ถือได้ว่าเป็นความฝันของคนไทยที่จะได้มีโอกาสได้สัมผัสซึ่งในอดีตนั้นกว่าจะได้เรียนที่นั่นต้องเดินทางข้ามทวีบไปถึงรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกากันเลยทีเดียวด้วยงบประมาณการเดินทาง กินอยู่ที่สูงมาก ไม่รวมกับค่าเรียนที่ไม่ถูกเลยอีกด้วย
แต่ในวันนี้ BMW Motorrad Thailand ด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของ California Superbike School ได้จัดให้ทีมงานของ คุณ Keith Code โดยการนำของลูกชายคนเก่ง คุณ Dylan Code และ ทีมโค๊ชฝีมือดีหลายสิบชีวิต เปิดคอร์ส “Level 1” ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสนามแข่งระดับโลกของประเทศไทยที่ จัดการแข่งขัน MotoGP และ World Superbike เรียกได้ว่าเป็นที่สุดของที่สุด ทั้งทีมผู้ฝึกสอน และสนามที่ใช้
ปัจจัยสุดท้ายคือรถของลูกค้า BMW Motorrad Thailand ซึ่งมีศักยภาพมากพอที่จะเทียบชั้นก็คือ BMW HP4, S 1000 RR, S 1000 R และ S 1000 XR โดยได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการกว่า 70 ชีวิต โดย 90% จะเป็นรถสปอร์ตดีกรีรถแข่ง อย่าง HP4 และ S 1000 RR
CALIFORNIA SUPERBIKE SCHOOL
เรามาทำความรู้จักกับ California Superbike School และหลักสูตรของพวกเขากันก่อนที่จะไปถึงสิ่งที่ได้รับในวันนั้น
40 ปี ก่อน ไม่มีหลักสูตรการเรียนการสอนแบบนี้ คุณ Keith Code เป็นคนแรกๆ ที่เป็นโค๊ชให้กับนักแข่ง และนักบิดที่ใช้รถบนถนนทั่วไป แล้วมันก็ได้ผลดีเยี่ยมจากการสอนที่มีเทคนิคแบบที่เรียกว่า “Step-by-Step” คือ เรียนและฝึกไปตามขั้นตอนอย่างละเอียด
40 ปีที่ผ่านมา พวกเขาสอนนักเรียนสาขาวิชา “Superbike” ไปกว่า 150,000 คน รวมทั้งนักแข่งระดับโลกและระดับชาติกว่า 65 คน
หลักสูตรทั้งหมดที่มีทั้งหมดคือ 4 หลักสูตร
Level 1
Level 1
แก้ไขข้อบกพร่องของนักบิด แก้ไขเรื่องการใช้คันเร่ง การเข้าโค้ง ขจัดความกลัวทิ้งไป และที่สำคัญทำให้เกิดความสนุกในการขับขี่
Level 2
Level 2
แก้ไขเรื่อง วิธีคิด วิธีอ่านแทรคให้ขาด เรียนรู้ 5 เทคนิคใหม่ มีการซ้อมซ้ำให้สามารถเรียนรู้วิธีแก้ไขปัญหาโดยใช้สายตาเป็นหลัก สายตา การมอง การอ่าน จะเฉียบคมมากขึ้น พร้อมกับการเอียงรถที่มากขึ้น พร้อมความเร็ว
Level 3
Level 3
อีก 5 เทคนิคเกี่ยวกับการปรับใช้ท่านั่งให้ถูกต้อง ในการควบคุมรถในแต่ละสถาณการณ์ แน่นอนว่าแบบฝึกหัดทั้ง 5 นี้จะทำให้นักเรียนทุกคนเรียนรู้หลักการณ์ในการปรับท่านั่งให้ถูกต้องในการเข้าโค้งแต่ละโค้งที่ต่างกัน รวมทั้งการทยายออกจากโค้งด้วยความเร็ว
Level 4
Level 4
ระดับสี่ โค๊ชจะสอนแบบตัวต่อตัวและ “คัสตอม” หลักสูตรให้กับนักเรียนโดยเฉพาะ เรียกว่าอยากเก่งแบบใหน พวกเขาจัดให้
การฝึกแบบทีละขั้นตอนอย่างละเอียด (Step-by-Step) ของ California Superbike School นั้นเรียกว่านักเรียนทุกคน 100% ดีขึ้น แต่เชื่อใหมว่า ส่วนมาก เป็นเรื่องของจิตวิทยาและวิทยาศาสตร์ซึ่งเขาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการออกแบบรถมอเตอร์ไซค์เข้าไปด้วยเรียกว่า “Science of Road Racing Motorcycles” ถือเป็นเรื่องสำคัญที่นักบิดทุกคนควรเข้าใจ และในทางอ้อมมันสร้างความมั่นใจให้แบบไม่รู้ตัว
ครั้งนี้เรามาลองประสบการณ์จริงกับครั้งแรกของ California Superbike School ระดับ 1 กัน
LEVEL 1 AT CHANG INTERNATIONAL CIRCUIT, BURIRAM 24 FEBRUARY 2018
กำหนดการที่ได้มารู้ได้เลยว่าพวกเขาเอาจริงเอาจังอย่างมากเพราะเราต้องไปถึงสนาม 06.45 น. ลงทะเบียน 07.00 น. เมื่อเห็นแบบนี้แล้วใครจะกล้าเที่ยวหรือดื่มหนักๆ ค่ำคืนก่อนเข้าเรียน ไม่มีสักคนที่มาเรียนแบบไม่พร้อม
0700 น. นักเรียนทุกคนพร้อมและลงทะเบียนเรียบร้อย รถมอเตอร์ไซค์ที่จะลงสนามของนักเรียนที่ขนมาเองจะได้รับการตรสจสภาพ เช็คลมยาง เราเห็นทีมงานหลายสิบคนเลยทีเดียว
หลังจากนั้นทุกคนได้รับเบอร์รถ เป็นสติ๊กเกอร์ และแบ่งกลุ่มเป็นสีต่างๆ ขาว เหลือง เขียว แดง จะต้องเปลี่ยนชุดเป็น เรซซิ่งสูททันที ก่อนขึ้นไปที่ห้องเรียน
หลังจาก คุณ Markus Glaser (Head of BMW Motorrad Thailand) กล่าวเปิดอย่างเป็นทางการ คุณ Dylan Code ก็เริ่มเรื่องทฤษฎีที่น่าสนใจและสิ่งแรกที่เขาพูดถึงคือ “Entering Speed” หรือการใช้คันเร่ง
เราเรียนรู้กัน 5 อย่างในวันนี้ โดยแบ่งเป็น ทฤษฎี และ ปฏิบัติ
1. Entering Speed การใช้คันเร่ง
2. Turning Point การหาจุดเข้าโค้ง
3. Quick Turn การพลิกรถให้เร็ว (Counter Steering)
4. 2 Steps การมองโค้ง
5. Relax การออกจากโค้งด้วยความรู้สึกที่ไม่เกร็ง
การเรียนการสอนจะแบ่งเป็น 3 ห้องเรียน
ห้องเรียนที่ 1: ในห้องเรียนชั้นบน
ห้องเรียนที่ 2: ในสนามซึ่งนักเรียนทุกคนจะมีโค้ชประจำตัวคอยขี่ประกบ (โค๊ช 1 คน กับ นักเรียน 3-4 คน)
ห้องเรียนที่ 3: ในพิท หลังจากออกจากสนาม โค๊ชจะแก้ไขอาการของแต่ละคนให้
คงมีไม่กี่คนที่ทราบว่า California Superbike School นั้น ได้ทำสื่อการเรียนการสอนออกมาต่อเนื่องหลายปีแล้วและมันก็เปรียบเสมือนคัมภีร์การขับขี่ที่เบื่องต้นเราสามารถดูได้จาก YouTube หรือหาหนังสือมาอ่าน แต่บอกได้เลยว่าสิ่งที่ได้ในวันนี้คือพื้นฐานที่แน่นหนาและมั่นคงก่อนที่คุณจะไปต่อในระดับสูงในการควบคุมรถที่มีความเร็วสูงขึ้น
นักเรียนทุกคนจำเป็นที่จะต้องผ่านด่านการสอนให้ครบทั้ง 5 ด่าน และทุกๆ ด่านจะให้คำตอบในตัวของมันเองก่อนไปถึงด่านต่อไป เช่น คุณจะต้องรู้จักการควบคุมความเร็วและใช้คันดร่งให้ถูกต้องก่อนที่จะพุ่งเข้าไปหาการเข้าโค้งที่ถูกต้อง
และการเข้าโค้งที่ถูกต้องก็จะต้องมีการควบคุมคันเร่งให้เหมาะสมเสียก่อนเมื่อทั้งสองอย่างถูกฝึกฝนแล้วก็มาถึงการพลิกรถให้เร็วสำหรับโค้งต่อเนื่องพวก “S” หรือ “Chicane” และการเรียนเรื่อง “Counter Steering” หรือหัวใจของการพลิกรถให้ฉับไว
เมื่อข้อ 1 (Entering Speed) + ข้อ 2 (Turning Point) + ข้อ 3 (Quick Turn) แล้ว ข้อ 4 (2-Steps) หรือการใช้สายตาก็ตามมา และ จบด้วย ข้อ 5 (Relax) คือการปรับอารมรณ์ให้สบายๆ ตอนเปิดคันเร่งทยานออกจากโค้งไป
ทั้ง 5 หัวข้อคือการปรับสมดุลย์ให้กับทุกคนที่มาเรียน ซึ่งพกความสามารถต่างกันมา แต่กลับให้ประโยชน์ได้อย่างดีกับทุกๆ ระดับการขับขี่ตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงระดับนักแข่งสมัครเล่น
BMW Motorrad Thailand ทำโครงการนี้ขึ้นถือได้ว่ามีความตั้งใจมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าซึ่งมาจากพื้นฐานความเข้าใจเป็นหลักเพราะในมุมมองของเรา “Make Life a Ride” สโลแกนที่ชัดเจนในตัวของมันเองเสมอ